โหดจัดแมนซิตี้ เปลี่ยนเป็นกลุ่มแรกที่ชนะเกมลีกสูงสุดของอังกฤษได้ 10 นัดหมายรวดแม้ตั้งแต่แมื่อวันที่ 1 มกราคมของแต่ละปี

โหดจัดแมนซิตี้ สร้างสถิติเป็นกลุ่มแรกที่ชนะเกมลีกสูงสุดของอังกฤษได้ 10 ครั้งติดกันถ้าหากนับจากตอนเริ่มปฏิทินในแต่ละปี หรือก็คือถ้าเกิดนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของแต่ละปี ภายหลังที่ปัจจุบันพวกเขาบุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 ถึงสนาม ฉันดิสัน พาร์ค เมื่อวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

โหดจัดแมนซิตี้

สำหรับสถิตินี้ของ แมนฯ ซิตี้ เริ่มตั้งแต่แมื่อวันที่พวกเขาบุกไปชนะ เชลซี 3-1 ช่วงวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาถึงนัดหมายปัจจุบันกับ เอฟเวอร์ตัน โดยนอกจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” แล้วนั้น

ในตอน 10 นัดหมายก่อนหน้าที่ผ่านมาพวกเขายังชนะ หงส์แดง กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มใหญ่แบบเดียวกันได้ด้วย และก็ถ้าหากนับย้อนไปถึงปีกลายมันก็ทำให้ในขณะนี้ แมนฯ ซิตี้ ชนะในลีกแล้ว 12 นัดหมายรวด ผลบอลสด7mเมื่อคืน

ดังนี้ หนสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ แพ้ในลีกจำเป็นต้องย้อนไปถึงวันที่พวกเขาเสมอกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 ตอนวันที่ 15 เดือนธันวาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดยผลงานจากนัดหมายปัจจุบันยังส่งผลให้กลุ่มของที่ปรึกษา โจเซป กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยกลายเป็นข้างตามหลังคู่แข่งแม้แต่วินาทีเดียวในลีกมา 16 ครั้งติดต่อกันแล้วด้วย

ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงแค่กลุ่มเดียวที่ทำผลงานด้านนี้ได้ดียิ่งไปกว่าพวกเขา โน่นเป็น อาร์เซน่อล ชุดฤดู 1998-99 ที่เคยทำเอาไว้ 19 เกม ในระหว่างเดือนธันวาคม ปี 1998 ไปจนถึงพฤษภาคม ปี 1999

“การใช้เงินซื้อความสำเร็จ” เป็นประโยคที่ชอบถูกใช้เป็นประจำในแวดวงกีฬาตลอดตอนหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในโลกบอล ด้วยเหตุว่าสมัยปัจจุบันนี้มันมีการใช้งบประมาณในการทำทีมมากยิ่งกว่ายุคเก่าจนกระทั่งหลายคนเห็นว่ากลุ่มที่พึ่งพิงพาการปั้นเยาวชนเกิน 50-60 เปอร์เซ็นต์คงจะประสบความสำเร็จได้ยาก

แม้กระนั้น มันไม่ใช่ว่าเพียงแค่มีเงินเยอะแล้วคุณจะได้ทั้งหมดทุกอย่างมาครอบครองง่ายๆหากใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยหรือซื้อผู้ที่ไม่เหมาะสมมาร่วมทีมมันก็จะเปลี่ยนเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และก็ก่อนหน้านี้ก็มีตัวอปิ้งให้เห็นแล้วว่าบางครั้งมถึงขนาดจำต้องล้มละลายหลังจากใช้เงินแบบไม่มีทางที่สมควร

ดังนี้ วันนี้พวกเราจะมาทดลองดูกันว่าในตอน 1 ทศวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานั้น บิ๊ก 6 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ละกลุ่มใช้งบประมาณด้านการเสริมกองทัพได้คุ้มแค่ไหนถ้าเทียบกับการบรรลุผลอันเป็นรูปธรรมที่เรียกว่า “แชมป์” โดยจะเป็นการเทียบส่วนต่างด้านรายจ่าย-รายรับในด้านการซื้อ-ขายนักฟุตบอลต่อแชมป์ 1 ถ้วยในตอน 10 ปีหลังสุด แล้วก็จะเรียงลำดับจากกลุ่มที่ใช้เงินซื้อแชมป์แบบคุ้มค่าน้อยที่สุดไปพบสูงที่สุดด้วย

โหดจัดแมนซิตี้

แน่ๆว่าถ้าหากเอาไปเทียบกับถ้วยแชมป์ “ไก่เดือยทอง” ก็ใช้เงินไปกับการบรรลุเป้าหมายได้ไม่คุ้มสูงที่สุด เนื่องจากตลอดตอน 10 ปีที่ล่วงเลยไปพวกเขาไม่มีแชมป์รายการใหญ่ๆติดมือแม้กระทั้งรายการเดียว โดยขณะที่ผ่านมาพวกเขามีส่วนต่างด้านรายการจ่าย-รายได้จากการซื้อ-ขายนักฟุตบอลอยู่ที่ 168.02 ล้านยูโร

ถ้าหากจะกล่าวว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ สเปอร์ส ยังห่างเหินจากการบรรลุผลเป็นด้วยเหตุว่าตอน 1 ทศวรรษมานี้พวกเขายังเน้นย้ำขายนักฟุตบอลเป็นหลักกระทั่งทำให้กลุ่มขาดความต่อเนื่องก็คงจะไม่ผิด จะต้องเยี่ยมกว่านี้

เพราะว่าแม้จะจ่ายค่าตัวซื้อนักฟุตบอลไปรวมแล้ว 790.26 ล้านยูโร แม้กระนั้นพวกเขาก็ขายหน้าแข้งไปเยอะแยะจนถึงทำให้มีรายได้ด้านนี้ถึง 622.24 ล้านยูโรร่วมกัน

กลับมาลงเฝ้าเสาหลังป่วยจนพลาดเกมที่แล้ว ครึ่งแรกมิได้เซฟเลยซึ่งรวมทั้งลูกจุดลูกโทษของ กุนโดกัน ด้วย ช่วงหลังเซฟลูกยิงของ​โฟเด้น ได้ดิบได้ดีแม้กระนั้นไปเข้าทาง กุนโดกัน ซำ้จ่อๆจากนั้นมาสาดบอลพลาดจนถึงส่งผลให้เสียประตูที่ 2 แถมยังส่งบอลเข้าทางคู่แข่งจนถึงเสียประตูที่ 3 อีก เสียความมั่นใจอย่างแรง

บอล เอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อคืนนี้วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ที่่ผ่านมา เป็นการเจอกันระหว่าง สวอนซี กลุ่มจากแชมเปี้ยนชิพ เปิดบ้านรับการมาเยี่ยมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยผลงานในรอบที่แล้วของทั้งสองนั้น “หงส์ขาว” ต้อนเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 5-1 ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” บุกไปเอาชนะ เชลท์แน่ม 3-1

เกมนี้ สตีฟ คูเปอร์ ผู้จัดการทีมสวอนซี ใช้ จามัล โลว์ และก็จอร์แดน มอร์ริส เป็นคู่หน้า โดยมี ยาน ดานด้า เล่นหน้าต่ำ ในตอนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของทัพเรือใบโรเตชั่นจากเกมที่ชนะ “ลิเวอร์พูล” ในลีกถึง 7 ตำแหน่ง

แนวรุกเปลี่ยนแปลงมาใช้ กาเบรียล เชซุส และก็เฟร์ราน ตอร์เรส ล่าตาข่ายร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ขณะที่แดนกลางยังเป็นชุดเดิมทั้งยัง แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้ และก็อิลคาย กุนโดกัน ที่เหมาสองประตูจากเกมบุกกระหน่ำ หงส์แดง ถึงแอนฟิลด์

เขี่ยบอลมาได้เพียงแค่ 2 นาทีแรก “เรือใบสีฟ้า” ได้ทักก่อนเลยข้างหลัง กาเบรียล เชซุส ลากตัดเข้ามาหน้ากรอบแล้วอัดด้วยขวาบอลพุ่งแรงจนถึง เฟร็ดดี้ วู้ดแมน นายด่านของหงส์ขาวจำต้องตีบอลทิ้งไป

แมนฯสิตี้ ครอบครองเกมรุกประเภทที่พับสนามบุกเข้าใส่เจ้าถิ่น นาที 14 แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ครอสบอลมาเสาแรก กาเบรียล เชซุส โฉบมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้าข้างหน้าต่าง

อีกสองนาทีต่อมา ซิตี้ ได้เตะมุม อิลคาย กุนโดกัน เปิดยาวไปเสาไกล ครั้งนี้เป็น อายเมริค ลาปอร์กต์ เทกตัวโขกย้อนไปเสาแรกแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว